เรื่องดูแลผู้สูงอายุในบ้านนี้ บอกตรงๆว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ ไหนเราเองจะต้องจัดสรรปันส่วนเรื่องทองไว้ใช้จ่าย อีกทั้งยิ่งอายุมาก ความเสี่ยงยิ่งสูง เดี๋ยวเจ็บเดี๋ยวป่วย หากเสียชีวิตไป ค่าทำศพเอย ค่าทำบุญเอย ต้องยอมรับว่าหลายๆคนนั้นอาจจะถึงกับเครียดทีเดียวถ้าต้องดูแลผู้สูงอายุ ดีไม่ดีบางบ้านมีผู้สูงอายุหลายคนอีก เลยอยากจะแนะนำขั้นตอนการดูแลผู้สูงวัยในบ้านอย่างไร ไม่ให้เครียด

  1. เปิดใจสร้างข้อตกลง

การอยู่ร่วมกันต้องมีการสร้างข้อตกลงร่วมกัน เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง ในครอบครัว และลดความเครียดของผู้ดูแลผู้สูงอายุในบ้านด้วย หากไม่มีกฏเกณฑ์ผู้ดูแลผู้สูงอายุอาจจะเกิดความเหนื่อยล้าได้ ข้อตกลงอย่างเช่น การใช้จ่ายเงินในแต่ละเดือน การส่งเบี้ยประกันผู้สูงวัยว่าร่วมด้วยช่วยกันส่งเบี้ย เป็นต้น

  1. ทำประกันผู้สูงวัย เพื่อลดความเสี่ยง

ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยง ลูกหลานบางคนยินดีจ่ายเงินรายเดือนทำประกันผู้สูงวัยแบบประกันสุขภาพ เพื่อที่ตนเองนั้นจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระค่ารักษาพยาบาลของผู้สูงอายุภายในบ้านที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุหลายคนการจ่ายเบี้ยประกันในการทำประกันผู้สูงวัย อาจจะต้องช่วยกันรับผิดชอบหลายคน หรือหากผู้สูงอายุบ้านไหนได้รับเงินบำนาญ หลังเกษียณหรือยังมีรายได้ ก็อาจจะช่วยแบ่งเบาภาระการทำประกันผู้สูงวัยร่วมกัน ก็จะลดความตึงเครียดของผู้ดูแลผู้สูงวัยได้

  1. ใช้เวลาร่วมกัน

การใช้เวลาร่วมกันเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะการดูแลผู้สูงอายุมิใช่เพียงเรื่องการวางแผนการเงินด้วยการหารายได้เพิ่มหรือทำประกันผู้สูงวัยเพื่อลดความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการดูแลสภาพจิตใจของกันและกันด้วย การใช้เวลาร่วมกันจะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้นในครอบครัว บ่อยครั้งที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุอาจจะมีความเครียด สามารถใช้เวลาช่วงที่พักผ่อนร่วมกันเปิดใจเปิดเผยความในใจเพื่อระบายความเครียด ก็จะช่วยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปลอดโปร่งมากขึ้น

  1. การเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ

ผู้สูงอายุไม่ใช่ผู้ไร้สมรรถภาพ บางเรื่องผู้สูงอายุก็มีความสามารถในการช่วยเหลือครอบครัวได้ อย่างเช่นการทำงานค้าขายเล็กๆน้อยๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว หรือแม้แต่การช่วยงานลูกหลานในด้านต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองยังมีคุณค่าและไม่เกิดความเครียด เมื่อผู้สูงอายุไม่เครียด ผู้ดูแลก็ไม่เครียดเช่นเดียวกัน

การดูแลผู้สูงอายุ ควรเป็นการช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน มากกว่าที่จะให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแบกภาระเป็นผู้ดูแลทั้งหมด เพราะนั่นจะทำให้เกิดความเครียดแก่ผู้ดูแล และทำให้ครอบครัวมีปัญหาได้

ดังนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของผู้สูงอายุด้วย หรืออยากหาตัวช่วยดูแลสุขภาพ ก็สามารถเข้ามาดูได้ที่ rabbit finance เลยค่ะ